คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด
(CCTV Privacy Notice)
----------------------------------------------------------------------------------
บริษัท คิงฟิชเชอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้
เรียกว่า “ บริษัทฯ ”) กำลังดำเนินการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ในพื้นที่ภายในและรอบบริเวณอาคาร/สิ่งอำนวยความสะดวก/สถานที่ทำงาน
พื้นที่จอดรถ.(“พื้นที่”) ของบริษัทฯ
เพื่อการปกป้องชีวิต สุขภาพ
และทรัพย์สิน ทั้งนี้ เราทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่
ผู้ปฏิบัติงาน ลูกค้า ลูกจ้าง ผู้รับเหมา ผู้มาติดต่อ หรือ บุคคลใด ๆ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า “ท่าน”) ที่เข้ามายังพื้นที่
โดยผ่านการใช้งานอุปกรณ์กล้องวงจรปิดดังกล่าว
ประกาศความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด (“ประกาศ”) ฉบับนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย
ซึ่งข้อมูลที่สามารถทำให้สามารถระบุตัวท่านได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ ของท่าน
ดังนี้
1.
ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานกฎหมายดังต่อไปนี้
❒ ความจำเป็นในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต
ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น
❒ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือบุคคลอื่น
โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
❒ ความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งควบคุมดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงาน และทรัพย์สินของเรา
2.
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทฯดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์
ดังต่อไปนี้
1.
เพื่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยส่วนตัวของท่าน
ซึ่งรวมไปถึงทรัพย์สินของท่าน
2.
เพื่อการปกป้องอาคาร
สิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพย์สินของเราจากความเสียหาย การขัดขวาง
การทำลายซึ่งทรัพย์สินหรืออาชญากรรมอื่น
3.
เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการยับยั้ง
ป้องกัน สืบค้น และ ดำเนินคดีทางกฎหมาย
4.
เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่มีกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์
5.
เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการสอบสวน
หรือ กระบวนการเกี่ยวกับการส่งเรื่องร้องเรียน
6.
เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการริเริ่มหรือป้องกันการฟ้องร้องทางแพ่ง
ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
3.
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมและใช้
ตามวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ 2. บริษัทฯทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในตำแหน่งที่มองเห็นได้
โดยจะจัดวางป้ายเตือนว่ามีการใช้งานกล้องวงจรปิด ณ ทางเข้าและทางออก รวมถึงพื้นที่ที่เราเห็นสมควรว่าเป็นจุดที่ต้องมีการเฝ้าระวัง
เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านเข้ามายังพื้นที่ ดังต่อไปนี้
รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม |
·
ภาพนิ่ง ·
ภาพเคลื่อนไหว ·
เสียง ·
ภาพทรัพย์สินของท่าน
เช่น พาหนะ กระเป๋า หมวก เครื่องแต่งกาย เป็นต้น |
ทั้งนี้ บริษัทฯจะไม่ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่อาจล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านจนเกินสมควร
ได้แก่ ห้องพัก ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ
หรือสถานที่เพื่อใช้ในการพักผ่อนของผู้ปฏิบัติงาน
4.
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านไว้เป็นความลับ
และจะไม่ทำการเปิดเผย เว้นแต่ กรณีที่บริษัทฯมีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ตามที่ได้ระบุในประกาศฉบับนี้
เราอาจเปิดเผยข้อมูลในกล้องวงจรปิดแก่ประเภทของบุคคลหรือนิติบุคคล ดังต่อไปนี้
1.
หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด
เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนในการบังคับใช้กฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการสืบสวน สอบสวน
หรือการดำเนินคดีความต่าง ๆ
2.
ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก
เพื่อความจำเป็นในการสร้างความมั่นใจในเรื่องการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต
ร่างกาย สุขภาพ รวมทั้งทรัพย์สินของท่านหรือบุคคลอื่น
5.
สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 ของท่าน
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น
โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ
ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.
สิทธิในการเข้าถึง
รับสำเนา และขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมอยู่
เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล
หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
2.
สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
3.
สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใด
ดังต่อไปนี้
3.1.
เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เราทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง
สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
3.2.
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม
ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
3.3.
เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์เราได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม
แต่ท่านประสงค์ให้เราเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
3.4.
เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เรากำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม
ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ
อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4.
สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม
ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัท มีสาเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
(เช่น บริษัทฯสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า
หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของบริษัทฯ)
6.
ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการเฝ้าระวังสังเกตโดยการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิดตามที่ประกาศนี้กำหนด
บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน เป็นระยะเวลา 30 วันโดยจะถูกจัดเก็บไว้ใน สถานที่เก็บนับจากวันที่ท่านเข้าติดต่อประสานงานกับบริษัทฯ
ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวเราจะทำการ ลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป
7.
การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม
ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย
หรือมีการเข้าถึง ลบ ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ
(Information Security Policy) ของเรา
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร
พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality)
ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล
โดยเราได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม
8.
ความรับผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม
ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
โดยบริษัทฯ จะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
9.
การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ บริษัทฯ
อาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทาง
บอร์ดประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ ที่ป้อมรักษาความปลอดภัย และ ใน Website ของบริษัทฯ เอง. โดยมีวันที่ของเวอร์ชันล่าสุดกำกับอยู่ตอนท้าย
อย่างไรก็ดี บริษัทฯขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ
โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะเข้ามาในพื้นที่ของบริษัทฯ
การเข้ามาในพื้นที่ของท่าน
ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดระงับการเข้าพื้นที่
หากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้
หากท่านยังคงเข้ามาในพื้นที่ต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว
จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
10.
การติดต่อสอบถาม
ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่
1.
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
(Data Controller)
สถานที่ติดต่อ บริษัท
คิงฟิชเชอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด
ช่องทางการติดต่อ 034
419 888
2.
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(Data Protection Officer: DPO)
สถานที่ติดต่อ บริษัท
คิงฟิชเชอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด
ช่องทางการติดต่อ 034
419 888 ต่อ 202
อีเมล์
DPO@kingfisher.co.th